logo

ราคาทองคำปรับตัวลดลง 12.6 เหรียญ หลังจากเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง

ราคาทองคำกลับมาเคลื่อนที่ในกรอบ 1920 – 1940 หลังดอลลาร์แข็งค่ากดดันราคาทองคำ เนื่องจากสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 4/2565 ขยายตัว 2.9% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 2.8% และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพุ่งขึ้น 5.6% ในเดือนธ.ค. ซึ่งดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.5%
นอกจากนี้ ยอดขายบ้านใหม่เดือน ธ.ค.ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.3% สู่ระดับ 616,000 ยูนิต เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐลดลง 6,000 ราย สู่ระดับ 186,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสวนทางที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 205,000 ราย
ซึ่งจากการเปิดเผยข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งสร้างความกังวลให้ตลาดอาจผลักดันให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกต่อไป
ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดทองคำคือดัชนีดอลลาร์ โดยเมื่อคืนนี้ดัชนีดอลลาร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.42 % สู่ระดับ 101.58 และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.06% มาอยู่ที่ระดับ 3.443%
ทั้งนี้ นักลงทุนเฝ้าติดตามการประชุมของเฟดวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ.เพื่อรอคอยความชัดเจนทิศทางนโยบายการเงินของเฟด

มุมมองนักวิเคราะห์

✎นักวิเคราะห์อาวุโสของ OANDA ระบุว่า ทองคำมีการซื้อขายระหว่างบริเวณ 1,935-1,960 เหรียญ ไป จนกว่าจะถึงการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า

ราคาทองคำวันนี้

➤ ราคาทองคำตลาดโลก
ปรับตัวลดลง -17.19 เหรียญ หรือ -0.88% อยู่ที่ระดับ 1,928.59 ดอลลาร์
➤ สัญญาทองคำตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 12.6 เหรียญ หรือ 0.65% ปิดที่ 1,930 ดอลลาร์/ออนซ์
➤ กองทุนทองคำ SPDR
วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 919.37 ตันภาพรวมเดือนมกราคม ซื้อสุทธิ 1.73 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน ซื้อสุทธิ 1.73 ตัน

ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลง

-ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
-ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง หนุนเฟดเดินหน้าปรับดอกเบี้ย

Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม

ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1937 หลังเกิดความกังวลวิกฤตธนาคารสหรัฐและยุโรป

FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 52.0% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมวันที่ 21-22 มี.ค. และให้น้ำหนักเพียง 48.0% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%

อ่านเพิ่มเติม