logo

Technical Analysis(T.A.)การวิเคราะห์ทางเทคนิค

การวิเคราะห์ทางเทคนิค หรือ Technical Analysis (T.A.)

การวิเคราะห์ทางเทคนิค หรือ Technical Analysis (T.A.) คือ การศึกษารูปแบบพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของราคาในตลาด ไม่ว่าจะเป็น ตลาดหุ้น (Stocks Market), ตลาดอนุพันธ์ (Derivatives Market), ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodities Market), และรวมไปถึงตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex Market) โดยเป็นการการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาปันจุบัน จากการเปรียบเทียบจากราคาอดีต หรือเทียบกับข้อมูลต่างๆในปัจจุบัน ที่จะส่งผลผลักดันราคาไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง โดยนักวิเคราะห์ทางเทคนิคส่วนใหญ่จะใช้กราฟเป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ราคา เพราะกราฟจะง่ายในการมองเห็นภาพแนวโน้มและเห็นภาพของอดีตได้ชัดเจน

การประยุกต์ใช้ การวิเคราะห์ทางเทคนิค

1.เริ่มจากการเลือกอินดี้ที่ถูกกับแนวทางการเทรดของตนเอง

อินดี้หรือ Indicator คือตัวบ่งชี้แนวโน้มของโอกาสการเกิดขึ้นของราคาในอนาคตว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งโดยปกตินั้น จะมีอยู่ 3 กลุ่มใหญ่ๆประกอบด้วย

        1.1 Trend กลุ่มที่บ่งบอกแนวโน้มเทรนด์ในอนาคต เช่น การใช้เส้น Trend Line เป็นต้น

        1.2 Volume กลุ่มที่บ่งบอกเรื่องของความหนาแน่นของการซื้อขาย เช่น RSI เป็นต้น

        1.3 Price Action กลุ่มนี้จะบอกราคา ณ ปัจจุบัน เช่น Candle Stick หรือ CPI V1.5 เป็นต้น

2.เลือกอินดี้ไม่เกิน 2-3 ตัว

     เนื่องจากมีอินดี้ให้เราเลือกใช้เป็นจำนวนมาก ดังนั้นเมื่อถึงเวลาใช้จริงๆ เราไม่ควรใช้อินดี้ที่มากกว่า 3 ตัว เพราะเหตุว่าอาจเกิดสิ่งที่เรียกว่าสัญญาณขัดกัน และนั่นหมายถึงโอกาสที่คุณจะประเมินช่วงราคาที่ผิดพลาดและนำความเสียหายมาสู่การเทรดของคุณได้

3.หมั่นมองหาเทคนิคใหม่ๆเสมอๆ

      หากคุณเป็นสมาชิกกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการเทรด forex ผมอยากให้คุณมองหาโอกาสและเทคนิคใหม่ๆอยู่เสมอที่เกี่ยวข้องกับการเลือกใช้อินดี้ เพราะในปัจจุบันมีนักเทรด forex เป็นจำนวนมากที่มองหาเทคนิคและทำการเทรดในกลยุทธ์ใหม่ๆ ส่งผลให้เกิดการทำกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมากครับ

กราฟมี3 ประเภทที่นิยมใช้กัน

1.Line Chart : เป็นการพล็อตกราฟด้วยราคาปิดเท่านั้น โดยที่ไม่สนว่าระหว่างแท่งกราฟขึ้นสูงสุด ต่ำสุดเท่าไหร่

2.Bar Chart : เป็นการพล็อตกราฟที่สามารถดูได้ทั้ง ราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด

3.Candle Stick Chart : เป็นการพล็อตกราฟที่สามารถดูได้ทั้ง ราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด แต่จะมีการนำสีเข้ามาช่วยให้ดูง่ายขึ้น

รูปแบบการเคลื่อนที่ของราคามี 3 ประเภท

1.Up Trend (แนวโน้มขาขึ้น) คือ รูปแบบราคาที่มีการทำจุดสูงสุดขึ้นเรื่อยๆและจุดต่ำสุดก็สูงขึ้นด้วยเช่นกัน

2.Side Way (แนวโน้มไม่ชัดเจน) คือ รูปแบบราคาที่มีการวิ่งเป็นแนวกรอบ มักจะทำจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดใกล้เคียงกับจุดเดิม

3.Down Trend (แนวโน้มขาลง) คือ รูปแบบราคาที่มีการทำจุดสูงสุดต่ำลงเรื่อยๆ และ จุดต่ำสุดก็ต่ำลงเรื่อยๆด้วยเช่นกัน

วิธีการใช้Trend Line

เงื่อนไขในการเข้าออเดอร์ Buy

ตามทฤษฎีของ Dow เมื่อราคาทำ HH & HL ทั้งหมด 2 HH และ 2HL นั่นหมายถึง UP TREND เราจะสามารถขีดเส้นแนวโน้ม (Trend line) ขาขึ้นได้และให้หาจังหวะที่ราคาเข้าใกล้เส้นแนวโน้มและเกิด Bullish Reversal Patterns เช่น  Bullish Engulfing และทำการเข้าออเดอร์ Buy กลับไปตามแนวโน้มขาขึ้น

เงื่อนไขในการเข้าออเดอร์ Sell

ตามทฤษฎีของ Dow เมื่อราคาทำ LH & LL ทั้งหมด 2LH และ 2LL นั่นหมายถึง DOWN TREND เราจะสามารถขีดเส้นแนวโน้ม (Trend line) ขาลงได้และให้หาจังหวะที่ราคา เข้าใกล้เส้นแนวโน้ม และเกิด Bearish Reversal Patterns เช่น Bearish Engulfing ให้ทำการเข้าออเดอร์ Sell กลับไปตามแนวโน้มขาลง

แต่ละ Timeframe จะเป็น Subset ของกันและกัน เช่น D1 แท่งใหญ่ประกอบไปด้วย H1 24 แท่ง และ H1 แท่งก็จะประกอบไปด้วย M15 ทั้งหมด 4 แท่ง เป็นต้น

แนวรับ(SUPPORT)/แนวต้าน(RESISTANCE)

แนวรับรับไม่ให้ลง แนวต้านต้านไม่ให้ขึ้น ถ้าหากผ่านทะลุไปได้ แนวก่อนหน้าจากรับจะกลายเป็นต้าน ต้านจะกลายเป็นรับ

บทสรุปการวิเคราะห์ทางเทคนิค

สรุปแล้วการวิเคราะห์ทางเทคนิคนั้น ถือว่าเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญในการกำหนดกลยุทธ์ในการเทรด forex ของคุณ โดยที่หัวใจสำคัญที่สุดคือ การเทรดโดยที่ไม่เอาอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องนั่นเอง และเพื่อให้ความแม่นยำในการเทรด forex ของคุณเพิ่มมากขึ้น คุณอาจเอาความรู้ในการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยก็ได้ ซึ่งจะส่งผลให้การตัดสินใจทุกครั้งของคุณมีความถูกต้องและแม่นยำมากยิ่งขึ้น

Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม