ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดทองคำคือดัชนีดอลลาร์ โดยเมื่อคืนนี้ดัชนีดอลลาร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น  0.49% มาอยู่ที่ระดับ 103.62 จุด และบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง  -0.01 % มาอยู่ที่ระดับ 4.11%

               ราคาทองคำปิดลบ 7.10 ดอลลาร์ รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ หลังเปิดเผยดัชนี PCE ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.3% ในเดือน ก.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.0% ในเดือน มิ.ย. ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 4.2% ในเดือน ก.ค. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 4.1% ในเดือน มิ.ย. โดยราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 3% และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ

               ขณะที่นักลงทุนคาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในวันที่ 1 พ.ย. แทนที่จะเป็นวันที่ 20 ก.ย. เพราะว่าเฟดต้องการจะรอดูข้อมูลเศรษฐกิจเป็นเวลานานอีก 2 เดือน ก่อนที่จะตัดสินใจว่าวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดสิ้นสุดลงแล้วหรือไม่

               เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักถึง 88.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25 – 5.50%  และให้น้ำหนักเพียง 11.5% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50 – 5.75% ในการประชุมวันที่ 19 – 20 ก.ย.

               ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ส.ค. และดัชนีภาคการผลิตเดือน ส.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ในคืนนี้ เวลา 19.30 น. เพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด