logo

วิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 04/07/2023

  • เมื่อวานนี้ราคาทองปิดบวก 1.93 ดอลลาร์ รับตัวเลข PMI ผลิตหดตัว
  • วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเยอรมนีได้แก่ ดุลการค้า เดือนพ.ค. คาดการณ์ว่าออกมาน้อยกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลเสียต่อราคาทองคำ
  • วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญออสเตรเลียได้แก่ มิตอัตราดอกเบี้ยของ RBA  คาดการณ์ว่าออกมามากกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลเสียต่อราคาทองคำ
  • กองทุนทองคํา SPDR ล่าสุดไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 921.9 ตัน
ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำอยู่ในช่วง Sideways Down
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย ก่อนที่จะถึงวันหยุดเนื่องในวันชาติของสหรัฐ
  • นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีความแน่นอนลดลงเล็กน้อยที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หลังจากข้อมูลพบว่า แรงกดดันด้านราคาลดลงเล็กน้อยในเดือนพ.ค. แต่ก็ยังคงสูงเกินเป้าหมายของเฟดไปมาก
  • นายออสตัน กูลส์บี ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกกล่าวว่า เขาและเจ้าหน้าที่เฟดจะพิจารณาข้อมูลหลายตัวที่จะออกมาในระหว่างนี้จนถึงการประชุมของเฟดในปลายเดือนนี้อย่างรอบคอบเพื่อประเมินว่าเฟดจำเป็นต้องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีกเพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลงหรือไม่
  • ราคาทองคำเมื่อวานนี้เปิดที่ 1918 ดอลลาร์ โดยที่ราคาทองลงไประดับต่ำสุดที่ราคา 1909 ดอลลาร์ ก่อนราคาจะพุ่งขึ้นมาปิดที่ราคา 1921 ดอลลาร์
มุมมองทองคำทาง Technical

เมื่อวานนี้ราคาทองคำปิดบวก 1.93 ดอลลาร์ หลังที่ตัวเลข PMI ผลิตหดตัว (+) นักลงทุนคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีความแน่นอนลดลงเล็กน้อยที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หลังจากข้อมูลพบว่า แรงกดดันด้านราคาลดลงเล็กน้อยในเดือนพ.ค. (+) ขณะที่ภาพรวมทองคำตอนนี้มองไปทิศทาง Sideways Down โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะวิ่งอยู่ในกรอบแนวรับที่ 1,900 ดอลลาร์ และ 1,890 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านที่ 1,940 ดอลลาร์ และ 1,950 ดอลลาร์

Technical View

แนวรับที่ 1 1900 แนวต้านที่ 1 1940
แนวรับที่ 2 1890 แนวต้านที่ 2 1950

หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน ผู้ลงทุนไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจออกคำสั่งซื้อขาย และควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม

วิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 20/11/2023

ข้อมูลล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธ.ค. 2566, ม.ค. 2567 และมี.ค. 2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค. 2567

อ่านเพิ่มเติม