logo

วิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 29/04/2024

  • เมื่อวันก่อนราคาทองปิดบวก 6.31 ดอลลาร์ ราคาทองคำมีแรงซื้อที่มากขึ้นแต่ก็มีเงินเฟ้อคอยสกัดไว้อยู่
  • วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญเยอรมนี ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) m/m เดือนเม.ย. คาดการณ์ว่าออกมามากกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีราคาทองคำ
  • กองทุนทองคํา SPDR ล่าสุดขายออก 2.59 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 832.19 ตัน
ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำอยู่ในช่วง Sideways
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ หลังจากการเปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่า เงินเฟ้อของสหรัฐเพิ่มขึ้นตามคาด ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐลดลงหลังการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ซึ่งทำให้สัญญาทองคำมีความน่าดึงดูดใจมากขึ้น
  • สมาคมทองของจีนรายงาน ปริมาณการใช้ทองในจีนพุ่งขึ้น 5.94% ในไตรมาสแรกเมื่อเทียบรายปี สู่ 308.905 ตัน โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ในขณะที่จีนถือเป็นประเทศผู้ใช้ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก 
  • ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์ ได้ตอกย้ำถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะยังอยู่ที่ระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง
  • ราคาทองคำเมื่อวันก่อนหน้าเปิดที่ 2331 ดอลลาร์ โดยที่ราคาทองลงไประดับต่ำสุดที่ราคา 2326 ดอลลาร์ ก่อนราคาจะพุ่งขึ้นมาปิดที่ราคา 2337 ดอลลาร์
มุมมองทองคำทาง Technical

เมื่อวานนี้ราคาทองคำปิดบวก 6.31 ดอลลาร์ ราคาทองคำมีแรงซื้อที่มากขึ้นแต่ก็มีเงินเฟ้อคอยสกัดไว้อยู่ (+) ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดของสหรัฐที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์ ได้ตอกย้ำถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐจะยังอยู่ที่ระดับสูงต่อไปอีกระยะหนึ่ง หากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ระดับ 2,344 ดอลลาร์ แนะนำนักเทรดสามารถพิจารณาเปิด Sell และตัดขาดทุนที่ระดับนี้ โดยเน้นทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคา (-) ขณะที่ภาพรวมทองคำตอนนี้มองไปทิศทาง Sideways โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะวิ่งอยู่ในกรอบแนวรับที่ 2,310 ดอลลาร์ และ 2,300 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านที่ 2,350 ดอลลาร์ และ 2,360

Technical View

แนวรับที่ 1  2310 แนวต้านที่ 1 2350
แนวรับที่ 2  2300 แนวต้านที่ 2 2360

หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน ผู้ลงทุนไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจออกคำสั่งซื้อขาย และควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน 

Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม