logo

วิเคราะห์ทองคำประจำวันที่ 30/11/2023

  • เมื่อวันก่อนราคาทองปรับตัวขึ้น 3.30 ดอลลาร์ รับ Bond Yield ร่วง แต่ GDP ออกมาดีเกินคาด สกัดขาขึ้นราคาทองคำ
  • วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐได้แก่ ดัชนี Core PCE m/m เดือนต.ค. คาดการณ์ว่าออกมาน้อยกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีต่อราคาทองคำ
  • วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐได้แก่ ดัชนี Core PCE y/y เดือนต.ค. คาดการณ์ว่าออกมาน้อยกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีต่อราคาทองคำ
  • วันนี้มีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐได้แก่ ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ คาดการณ์ว่าออกมามากกว่าเดิม หากเป็นไปตามที่คาดจะส่งผลดีต่อราคาทองคำ
  • กองทุนทองคํา SPDR ล่าสุดขายออก 2.02 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 878.53 ตัน
ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำอยู่ในช่วง Uptrend
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ในวันพุธ โดยได้แรงหนุนจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันนี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (FED)
  • นายออสแทน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโกกล่าวว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐกำลังปรับตัวลงในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950 พร้อมกับกล่าวว่าเขารู้สึกกังวลหากเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานเกินไป
  • นายคริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟด กล่าวว่า เขามีความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในปัจจุบันนี้อยู่ในระดับที่เข้มงวดมากพอแล้ว และมองว่ามีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ถ้าหากอัตราเงินเฟ้อยังคงชะลอตัวลงเข้าใกล้ระดับเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ที่ 2%
  • ราคาทองคำเมื่อวานก่อนเปิดที่ 2040 ดอลลาร์ โดยที่ราคาทองลงไประดับต่ำสุดที่ราคา 2035 ดอลลาร์ ก่อนราคาจะขยับขึ้นมาปิดที่ราคา 2044 ดอลลาร์
มุมมองทองคำทาง Technical

เมื่อวันก่อนราคาทองคำปิดบวก 3.30 ดอลลาร์ ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นรับ Bond Yield ร่วง แต่ GDP ออกมาดีเกินคาด สกัดขาขึ้นราคาทองคำ (+) ทั้งนี้หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือระดับ 2,032 – 2,035 ได้ นักเทรดสามารถพิจารณาเปิด Buy เพื่อทำกำไรระยะในระยะสั้นและตัดขาดทุนที่ระดับ 2,018 เหรียญ (+) ขณะที่ภาพรวมทองคำตอนนี้มองไปทิศทาง Uptrend โดยวันนี้คาดว่าราคาทองคําจะวิ่งอยู่ในกรอบแนวรับที่ 2,030 ดอลลาร์ และ 2,020 ดอลลาร์ โดยมีแนวต้านที่ 2,055 ดอลลาร์ และ 2,065 ดอลลาร์

Technical View

แนวรับที่ 1 2030 แนวต้านที่ 1 2055
แนวรับที่ 2 2020 แนวต้านที่ 2 2065

หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน ผู้ลงทุนไม่ควรใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจออกคำสั่งซื้อขาย และควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม