ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดทองคำคือดัชนีดอลลาร์ โดยเมื่อคืนนี้ดัชนีดอลลาร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.09% สู่ระดับ 104.19 จุด และบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.01% มาอยู่ที่ระดับ 4.247%

               วันศุกร์ที่ผ่านมาราคาทองคำปิดลบ 7.20 ดอลลาร์ รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งขึ้น หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดยังคงส่งสัญญาณว่าเฟดพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่ออีกในปีนี้ในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง เพื่อให้มั่นใจว่าเฟดสามารถคุมปัญหาเงินเฟ้อได้สำเร็จ

               นอกจานนี้ภาพรวมเศรษฐกิจจีนจะยังคงซบเซาต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนผ่านดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคการบริการ เดือนสิงหาคม ทำให้ความต้องการทองคำยังไม่ฟื้น

               เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนักถึง 80% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25 – 5.50%  และให้น้ำหนักเพียง 20% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.50 – 5.75% ในการประชุมวันที่ 19 – 20 ก.ย. นักลงทุนให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังเฟดส่งสัญญาณพร้อมเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ย

               อย่างไรก็ตามในสัปดาห์นี้นักลงทุนเฝ้าติดตามข้อมูลตัวเลขตลาดแรงงานสหรัฐพร้อมทั้งถ้อยคำแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดเพื่อหาทิศทางในการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด