logo

ข่าวเศรษฐกิจรอบโลกประจำวันที่ 30 พฤษภาคม 2567

  • ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.48 จุด หรือ 0.46% มาอยู่ที่ระดับ 105.12 จุด
  • อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี  ปรับตัวลดลง -0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.614% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง 0.0 % มาอยู่ที่ระดับ 4.975% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.36% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาแอตแลนตา (Raphael Bostic) ส่งสัญญาณถึงโอกาสที่จะปรับลดดอกเบี้ยในอนาคต  เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  แม้ว่าปัจจุบันเงินเฟ้อยังคงเป็นปัญหาที่สำคัญ  แต่คาดว่าเงินเฟ้ออาจจะทยอยลดลงในระยะยาว
  • ตลาดคาดการณ์ว่า เฟดจะไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังเจ้าหน้าที่เฟดต่างส่งสัญญาณต้องการเห็นเงินเฟ้อชะลอตัวต่อไปอีกหลายเดือน ก่อนที่จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย
  • FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ โดยจะเกิดขึ้นในเดือนพ.ย. จากเดิมที่คาดไว้ในเดือนก.ย.
  • เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประสานเสียงส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 6 มิ.ย. หาก ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 6 มิ.ย. ก็จะทำให้ ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าเฟด
  • สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.3% แตะที่ 84.84 เพนนีต่อ 1 ยูโร ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2565 หลังจากข้อมูลเผยว่า อัตราเงินเฟ้อในเดือนพ.ค.ชะลอตัวในหลาย ๆ ภูมิภาคทั่วเยอรมนีเมื่อเทียบกับเดือนเม.ย. ซึ่งส่งสัญญาณว่าธนาคารกลางอังกฤษและยุโรปจะมีทิศทางนโยบายแตกต่างกันมากขึ้น
  • นายเซจิ อาดาชิ หนึ่งในกรรมการบริหารของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ว่า BOJ อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากการอ่อนค่าอย่างหนักของเงินเยนผลักดันเงินเฟ้อให้สูงขึ้น หรือหากสาธารณชนมีมุมมองว่าเงินเฟ้อจะปรับตัวสูงมากกว่าคาดในอนาคต
  • ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 400 จุดในวันพุธ โดยตลาดถูกกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
  • ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,441.54 จุด ลดลง 411.32 จุด หรือ -1.06%
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,266.95 จุด ลดลง 39.09 จุด หรือ -0.74% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,920.58 จุด ลดลง 99.30 จุด หรือ -0.58%
  • ผลสำรวจของ Conference Board ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 102 ในเดือนพ.ค. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 95.9 โดยได้แรงหนุนจากมุมมองที่ดีขึ้นเกี่ยวกับตลาดแรงงาน แต่ผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง และครัวเรือนจำนวนมากคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับตัวสูงขึ้นในปีหน้า
  • เทศบาลนครเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้นได้ปรับลดอัตราส่วนเงินดาวน์ลงสู่ระดับ 20% สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก และปรับลดอัตราส่วนเงินดาวน์ลงสู่ระดับ 30% สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านหลังที่ 2 พร้อมกับปรับลดอัตราดอกเบี้ยกู้จำนองลงเช่นกัน ส่วนกว่างโจวประกาศว่าจะลดอัตราส่วนเงินดาวน์ลงเหลือเพียง 15% สำหรับผู้ซื้อบ้านหลังแรก และจะผ่อนคลายกฎระเบียบการส่งเงินสมทบประกันสังคมและการจ่ายภาษีส่วนบุคคล ซึ่งกฎระเบียบดังกล่าวเป็นข้อกำหนดสำหรับการซื้อบ้าน หลังจากรัฐบาลกลางของจีนออกมาตรการให้ความช่วยเหลือภาคอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังประสบปัญหา
  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนสำหรับปีนี้สู่ 5% จากที่เคยคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 4.6% โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ขยายตัวอย่างแข็งแกร่งในไตรมาส 1/2567 และการออกมาตรการเชิงนโยบายล่าสุดของรัฐบาลจีน
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
  • ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -23.13 เหรียญ หรือ -0.98% อยู่ที่ระดับ 2,337.0 เหรียญ
  • สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 15.30 เหรียญ หรือ 0.65% ปิดที่ 2,341.20 เหรียญ
  • สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 23.6 เซนต์ หรือ 0.73% ปิดที่ 32.373 เหรียญ
  • สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 18.90 เหรียญ หรือ 1.77% ปิดที่ 1,047.90 เหรียญ
  • กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 832.21 ตันภาพรวมเดือนพฤษภาคม ซื้อสุทธิ 0.02 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน ขายสุทธิ 46.9 ตัน
  • สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของอุปสงค์น้ำมันเบนซิน รวมทั้งความกังวลว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยล่าสุดจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานขึ้น
  • สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 60 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 79.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 62 เซนต์ หรือ 0.74% ปิดที่ 83.6 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันจะทรงตัวอยู่ที่ระดับปัจจุบันจนถึงปลายปี ผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์และนักวิเคราะห์ 43 คน โดยรอยเตอร์ส คาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบสหรัฐฯ จะอยู่ที่เฉลี่ย 80.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากการคาดการณ์ที่ 78.09 ดอลลาร์ในเดือนมีนาคม
  • Goldman Sachs คาดการณ์ว่าความต้องการน้ำมันจะเพิ่มขึ้นจนถึงปี 2034 โดยคาดว่าความต้องการจะอยู่ที่ 108.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2030 และเพิ่มเป็น 110 ล้านบาร์เรลในปี 2034
Facebook
Twitter
Email

ข่าวสารเพิ่มเติม

ราคา Bitcoin เข้าใกล้ 27,500 ดอลลาร์อีกครั้งหลังนักลงทุนหวังสหรัฐฯ ปรับเพดานหนี้ให้สูงขึ้น

นักลงทุน Bitcoin ได้เข้าซื้อ BTC ในวันที่ 23 พฤษภาคมจำนวนมากเนื่องจากพวกเขาเริ่ม “ซื้อข่าวลือ” โดยหวังว่าสหรัฐอเมริกาจะแก้ไขปัญหาเพดานหนี้ที่ตกต่ำได้เป็นอย่างดีก่อนวันที่ 1 มิถุนายน 2023

อ่านเพิ่มเติม

Ripple เตรียมโน้มน้าวธนาคารในสหรัฐฯ ให้ใช้งาน XRP สำหรับการโอนเงินข้ามพรมแดน

Ripple เชื่อว่าสถาบันการเงินของสหรัฐฯ จะเริ่มใช้ XRP สำหรับการโอนข้ามพรมแดน หลังจากที่บริษัทได้รับชัยชนะบางส่วนจากสำนักงาน ก.ล.ต. เมื่อไม่นานมานี้

อ่านเพิ่มเติม