ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวลดลง -0.21 จุด หรือ -0.2% มาอยู่ที่ระดับ 104.22 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.06 % มาอยู่ที่ระดับ 4.249% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.04 % มาอยู่ที่ระดับ 4.625% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.38% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตากล่าวว่า เขาคาดการณ์ในขณะนี้ว่า จะมีการลดอัตราดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ แทน 2 ครั้งที่เขาเคยคาดไว้ก่อนหน้านี้ โดยระบุถึงภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่าคาด
- แหล่งข่าวเปิดเผยว่า บรรดาธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ของรัฐบาลจีนได้ดำเนินการเทขายสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อเปลี่ยนเป็นเงินหยวนจีนในตลาดออนชอร์เมื่อวานนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับค่าเงินหยวนหลังจากค่าเงินหยวนปรับตัวลดลงอย่างหนัก
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนม.ค. โดยระบุว่า กรรมการส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า โอกาสที่ BOJ จะสามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% กำลังเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และหาก BOJ มีความมั่นใจว่าค่าจ้างและเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่เหมาะสม BOJ ก็จะพิจารณายุตินโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบและนโยบายผ่อนคลายการเงินแบบพิเศษ
- ในการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 22-23 ม.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ BOJ มีมติคงนโยบายการเงิน ซึ่งรวมถึงการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ -0.1% และยังคงกำหนดให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นประเภทอายุ 10 ปีเคลื่อนไหวที่ระดับราว 0%
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นข้อมูลเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,313.64 จุด ลดลง 162.26 จุด หรือ -0.41%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,218.19 จุด ลดลง 15.99 จุด หรือ -0.31%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,384.47 จุด ลดลง 44.35 จุด หรือ -0.27%
- Goldman Sachs คาดการณ์ว่าสินค้าโภคภัณฑ์จะเติบโตเพิ่มขึ้นในปีนี้ เนื่องจากธนาคารกลางของสหรัฐฯ และยุโรปมีแนวโน้มลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและภาคผู้บริโภค
- ประธานธนาคารโลกกล่าวว่า ธนาคารโลกจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์มากขึ้น ซึ่งรวมถึงข้อมูลการผิดนัดชำระหนี้ โดยเริ่มตั้งแต่สัปดาห์นี้เป็นต้นไป ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันเพื่อดึงดูดการลงทุนของภาคเอกชนเข้ามาในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนามากขึ้น
- คริสตาลินา จอร์จิเอวา ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า จีนสามารถขยายตัวได้เร็วกว่าสถานการณ์ปัจจุบันอย่างมากด้วยมาตรการปฏิรูปที่หนุนตลาดแบบเบ็ดเสร็จ
- จีนประกาศว่า จะปฏิบัติต่อบริษัทต่างประเทศในวิธีเดียวกันกับบริษัทในประเทศเพื่อดึงดูดการลงทุน, บริษัท และความเชี่ยวชาญจากต่างประเทศเข้ามามากขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจจีนจะดำเนินการยกระดับ และทำให้ห่วงโซ่อุตสาหกรรมแข็งแกร่งขึ้น
ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ โดยตลาดยังคงได้ปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นข้อมูลเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 6.49 เหรียญ หรือ 0.3% อยู่ที่ระดับ 2,171.8 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 16.40 เหรียญ หรือ 0.76% ปิดที่ 2176.40 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 4.80 เซนต์ หรือ หรือ 0.19% ปิดที่ 24.891 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 10.4 เหรียญ หรือ 1.15% ปิดที่ 908.8 เหรียญ
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 835.33 ตันภาพรวมเดือนมีนาคม ซื้อสุทธิ 12.42 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน ขายสุทธิ 43.78 ตัน
- นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะปรับตัวสูงขึ้นในปีนี้ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนภาคอุตสาหกรรมและอุปสงค์ในหมู่ผู้บริโภค
ข่าวน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลรัสเซียมีคำสั่งควบคุมการผลิตน้ำมัน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากข่าวการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในรัสเซียและยูเครน
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ หรือ 1.64% ปิดที่ 81.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ หรือ 1.55% ปิดที่ 86.75 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า รัฐบาลรัสเซียได้สั่งให้บริษัทต่าง ๆ ปรับลดการผลิตน้ำมันในไตรมาส 2 ปีนี้ เพื่อให้รัสเซียสามารถบรรลุเป้าหมายการผลิตที่ระดับ 9 ล้านบาร์เรล/วันภายในสิ้นเดือนมิ.ย. ตามคำมั่นสัญญาที่รัสเซียให้ไว้กับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส
- ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวรัสเซียถล่มขีปนาวุธใส่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในแคว้นลวีฟทางตะวันตกของยูเครน หลังจากที่ยูเครนใช้โดรนโจมตีโรงกลั่นน้ำมันของรัสเซียหลายครั้งในเดือนนี้ ส่งผลให้การกลั่นน้ำมันในรัสเซียลดลงราว 7% ของกำลังการกลั่นในประเทศ