ข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 0.1 จุด หรือ 0.1% มาอยู่ที่ระดับ 104.6 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 4.449% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.03 % มาอยู่ที่ระดับ 4.852% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.4% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- ผู้ว่าการเฟด คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ กล่าวสุนทรพจน์นการประชุม คณะกรรมการเฟด เกี่ยวกับบทบาทระหว่างประเทศของเงินดอลลาร์สหรัฐคำกล่าวของวอลเลอ์ ไม่มีความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับนโยบายการเงินหรือแนวโน้มเศรษฐกิจ
- ลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐประจำเฟดสาขาคลีฟแลนด์ เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2024 อย่างไรก็ตาม ล่าสุดเธอได้ออกมา เปลี่ยนมุมมอง ใหม่ โดยระบุว่า เศรษฐกิจปัจจุบัน ไม่เอื้ออำนวย ต่อการลดดอกเบี้ยมากขนาดนั้น รอจนกว่าจะมี ข้อมูลชัดเจน ว่าเงินเฟ้อเริ่ม ชะลอตัว ลงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
- โรแบร์โต เพอร์ลิ เจ้าหน้าที่ดูแลพอร์ตการลงทุนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำนิวยอร์ก กล่าวว่า การลดขนาดงบดุลของเฟด (Fed balance sheet runoff) กำลังดำเนินไปด้วยความราบรื่น โดยมีสัญญาณหลายอย่างชี้ว่า ระบบธนาคารพาณิชย์ยังคงมีสภาพคล่องเพียงพอ
- แมรี่ เดลี่ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก ยังไม่มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะลดลงอย่างยั่งยืนที่ 2%
- เจฟเฟอร์ รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) แสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อมูลเงินเฟ้อเดือนเมษายนว่า แม้ตัวเลขจะน่าพอใจ แต่ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่า เฟด พ้นปัญหาเงินเฟ้อแล้ว
- ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยผลการสำรวจว่า กลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นมองว่าเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนเป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่พวกเขาต้องการจากนโยบายการเงินของ BOJ
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญ
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นธนาคารเจพีมอร์แกน อย่างไรก็ดี ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นก่อนที่บริษัทอินวิเดีย (Nvidia) จะเปิดเผยผลประกอบการ ขณะที่นักลงทุนยังคงหาสัญญาณบ่งชี้ช่วงเวลาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,806.77 จุด ลดลง 196.82 จุด หรือ -0.49%
- ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,308.13 จุด เพิ่มขึ้น 4.86 จุด หรือ +0.09%
- ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,794.87 จุด เพิ่มขึ้น 108.91 จุด หรือ +0.65%
- ดัชนีดาวโจนส์ถูกกดดันจากหุ้นเจพีมอร์แกนที่ร่วงลง 4.5% หลังจากนายเจมี ไดมอน ซีอีโอของเจพีมอร์แกนส่งสัญญาณในระหว่างการประชุมประจำปีว่า เขาจะเกษียณอายุการทำงานเร็วกว่าที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ และกล่าวว่าเจพีมอร์แกนจะไม่ซื้อหุ้นคืนในราคาที่ระดับปัจจุบัน
ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ ซึ่งเป็นการปิดในแดนบวกติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวขึ้น 11.82 เหรียญ หรือ 0.49% อยู่ที่ระดับ 2,426.53 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 21.10 ดอลลาร์ หรือ 0.87% ปิดที่ 2,438.50 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.167 ดอลลาร์ หรือ 3.73% ปิดที่ 32.426 ดอลลาร์/ออนซ์
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 26.30 ดอลลาร์ หรือ 2.41% ปิดที่ 1,063.70 ดอลลาร์/ออนซ์
- กองทุนทองคำ SPDR วันก่อนหน้าไม่เปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 838.54 ตันภาพรวมเดือนพฤษภาคม ซื้อสุทธิ 6.35 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน ขายสุทธิ 40.57 ตัน
- ราคาทองคำฟิวเจอร์ทะยานขึ้นเหนือระดับ 2,450 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังมีรายงานว่านายอิบราฮิม ไรซี ประธานาธิบดีอิหร่าน เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก รวมทั้งได้ปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
- นักวิเคราะห์จากบริษัท Kitco Metals กล่าวว่า อีกหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดคือการที่นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากนายอิบราฮิม ไรซี ประธานาธิบดีอิหร่านได้ถึงแก่อสัญกรรมจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก
- นักกลยุทธ์การตลาดอาวุโสของบริษัท RJO Futures คาดการณ์ว่า ในระยะใกล้นี้ ราคาทองคำมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับ 2,500 ดอลลาร์
ข่าวน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ หลังจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดควรรอหลักฐานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการชะลอตัวของเงินเฟ้อ ก่อนที่จะตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 26 เซนต์ หรือ 0.32% ปิดที่ 79.80 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 27 เซนต์ หรือ 0.32% ปิดที่ 83.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
- นายฟิลิป เจฟเฟอร์สัน รองประธานเฟดกล่าวเมื่อวานนี้ว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่าเงินเฟ้อกำลังอยู่ในทิศทางขาลง ขณะที่นายไมเคิล บาร์ รองประธานเฟดอีกคนหนึ่งกล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงินต่อไปอีกระยะหนึ่ง และนายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดสาขาแอตแลนตากล่าวว่า เฟดควรรอเวลาอีกระยะหนึ่งเพื่อให้มั่นใจว่าเงินเฟ้อกำลังอยู่ในทิศทางขาลง
- การแสดงความเห็นดังกล่าวได้สร้างแรงกดดันต่อราคาน้ำมัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ต่ำกว่าคาดในเดือนเม.ย. โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจะช่วยให้ต้นทุนการกู้ยืมของกลุ่มผู้บริโภคและภาคธุรกิจปรับตัวลดลง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมัน