Table of Contents
Toggleข่าวเกี่ยวกับค่าเงิน และธนาคารกลาง
- รายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 19-20 มี.ค.ยังระบุว่า กรรมการเฟดมีความกังวลว่าเงินเฟ้ออาจจะไม่ชะลอตัวลงสู่เป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% ในระยะเวลาอันใกล้ และแสดงความเห็นว่าเฟดอาจจำเป็นต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้
- ดัชนีดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 09 จุด หรือ 1.05% มาอยู่ที่ระดับ 105.18 จุด
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 17 % มาอยู่ที่ระดับ 4.548% ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวขึ้น 0.23 % มาอยู่ที่ระดับ 4.977% โดยที่ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี น้อยกว่า 2 ปี เท่ากับ-0.43% อยู่ในภาวะ inverted yield curve
- ตัวเลข CPI ที่ร้อนแรงได้เพิ่มความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ Sticky ข้อมูล CPI ในวันพุธแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อขยายตัวมากกว่าที่คาดไว้ในเดือนมีนาคม รายงานดังกล่าวซึ่งร้อนแรงเกินความคาดหมายเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ตอกย้ำแนวคิดที่ว่าอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงตลอดปี 2023 กำลังชะลอตัวลง โดยอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะยังคงตรึงอยู่เหนือเป้าหมายประจำปีของเฟดที่ 2% ในอีกหลายเดือนข้างหน้า
- ตลาดคาดการณ์ว่ามีโอกาสถึง 8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน ซึ่งมากกว่าสองเท่าของ 37.1% ในสัปดาห์ที่แล้ว
- นายราฟาเอล บอสติก ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแอตแลนตากล่าวมีความเป็นไปได้ที่เฟดอาจจะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเลยในปีนี้ ถ้าหากความคืบหน้าในการควบคุมภาวะเงินเฟ้อหยุดชะงักลง และถ้าหากเศรษฐกิจยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งเกินคาด
- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัวในบริเวณกรอบบน 152 เยนในการซื้อขายเช้านี้ที่ตลาดโตเกียว หลังจากที่แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 34 ปีเมื่อคืนที่ผ่านมา
ข่าวเศรษฐกิจสำคัญ
- หลังสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ (10 เม.ย.) ว่า ดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 5% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.4% และดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.8% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.7%
- นักลงทุนจับตารายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 19-20 มี.ค.
- รายได้ของหุ้นธนาคารอย่าง Wall Street JPMorgan Chase & Co (NYSE:JPM) Citigroup Inc (NYSE:C) และ Wells Fargo & Company (NYSE:WFC) จะมีการเผยแพร่ในวันศุกร์ ขณะที่ BlackRock Inc (NYSE:BLK) ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์รายใหญ่ที่สุดของโลกจะรายงานผลประกอบการก่อนเปิดตลาดในวันศุกร์
- นายลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐกล่าวว่า การที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐพุ่งขึ้นสูงกว่าคาดในเดือนมี.ค.นั้น บ่งชี้ว่าการดำเนินการครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งตลาดต้องจับตาเรื่องนี้อย่างระมัดระวัง
ข่าวเกี่ยวกับทองคำ
- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่สูงเกินคาด ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้
- ราคาทองคำตลาดโลก ปรับตัวลดลง -4 เหรียญ หรือ -0.82% อยู่ที่ระดับ2,333.0 เหรียญ
- สัญญาทองคำตลาดCOMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 14 ดอลลาร์ หรือ59% ปิดที่ 2,348.40 เหรียญ
- สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น8 เซนต์ หรือ0.24% ปิดที่ 28.052 เหรียญ
- สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง70 ดอลลาร์ หรือ0.78% ปิดที่ 976.40 เหรียญ
- กองทุนทองคำSPDR วันก่อนหน้าขายออก26 ตัน ปัจจุบันถือครองที่ 828.45 ตันภาพรวมเดือนเมษายน ขายสุทธิ 1.7 ตัน ขณะที่ปีนี้ ตั้งแต่ 1 ม.ค. – ปัจจุบัน ขายสุทธิ 50.66 ตัน
- แบงก์ ออฟ อเมริกาคาดว่า ราคาทองจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ ขณะที่ความต้องการจากธนาคารกลางต่างๆ และผู้ซื้อรายย่อยในจีนแข็งแกร่ง โดยฝ่ายวิจัยระบุว่า “ทองยังคงเป็นหนึ่งในโลหะที่เป็นที่นิยม และเราคาดว่า ทองอาจจะแตะ 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ภายในปี 2025
ข่าวน้ำมัน
- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ หลังจากมีรายงานว่าบุตรชาย3 คนของผู้นำกลุ่มฮามาสได้ถูกกองทัพอิสราเอลสังหารในระหว่างปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในฉนวนกาซา ซึ่งนักลงทุนมองว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการเจรจาหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส และอาจทำให้วิกฤตการณ์ในตะวันออกกลางลุกลามเป็นวงกว้าง
- สัญญาน้ำมันดิบWTI ส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ15% ปิดที่ 86.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
- สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น06 ดอลลาร์ หรือ1.19% ปิดที่ 90.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ราคาน้ำมันยังปรับตัวขึ้นหลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศของอิสราเอล โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มX หรือทวิตเตอร์เมื่อวานนี้ว่า อิสราเอลจะทำการตอบโต้หากอิหร่านโจมตีอิสราเอลโดยตรง
- สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น715,000 บาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง3 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล
- นักลงทุนจับตารายงานภาวะตลาดน้ำมันรายเดือนของกลุ่มโอเปกซึ่งจะมีการเผยแพร่ในวันนี้ (11 เม.ย.) และรายงานภาวะตลาดน้ำมันจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ซึ่งจะมีการเผยแพร่ในวันศุกร์ (12 เม.ย.)
หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นอาจมีความคลาดเคลื่อน เนื่องจากสินทรัพย์ดิจิทัลมีการซื้อขายตลอด 24 ชม. ไม่ควรใช้เพื่อการตัดสินใจลงทุนหรือซื้อขาย ข้อมูลดังกล่าวไม่มีเจตนาชี้นำการลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบ