ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อตลาดทองคำคือดัชนีดอลลาร์ โดยเมื่อคืนนี้ดัชนีดอลลาร์ ไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ระดับ 106.58 จุด และบอนด์ยีลด์สหรัฐ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 0.03% มาอยู่ที่ระดับ 4.877%             

               ราคาทองคำปิดบวก 1.10 ดอลลาร์ หลังสถานการณ์ความตึงเครียดตะวันออกกลางเป็นปัจจัยหนุนทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยวันศุกร์ที่ผ่านมามีการเปิดเผยข้อมูลดัชนี Core PCE ปรับตัวขึ้น 0.3% ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือน ส.ค. และเมื่อเทียบรายปีปรับตัวขึ้น 3.7% ในเดือน ก.ย. ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังปรับตัวขึ้น 3.8% ในเดือน ส.ค.

               โดยนอกจากนี้ นักวิเคราะห์ได้ประเมินถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟดชี้ ให้เห็นถึงความกังวลต่อแนวโน้มภาวะการเงิน (FCI) ที่ตึงตัวมากขึ้น ตามการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปี และมุมมองนักลงทุนในตลาดที่คาดการณ์ว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมที่จะครั้งนี้

               เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.5% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. และนักลงทุนยังให้น้ำหนัก 79.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 57.9% ในเดือนที่แล้ว

               ทั้งนี้ ในสัปดาห์นี้นักลงทุนเฝ้าติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(FED) ,ธนาคารกลางอังกฤษ(BOE) และธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) รวมถึงรายงานข้อมูลสำคัญทางเศรษฐกิจของสหรัฐและจีน และยังติดตามสถานการณ์สงครามอย่างใกล้ชิด